การเลี้ยงดูนกฟอพัส
การเลี้ยงดูนกฟอพัส

ช่วงผสมพันธุ์อายุเฉลี่ยประมาณ 4-9 เดือน วางไข่ได้ครั้งละ 5–8 ฟอง
ระยะฟักไข่ประมาณ 21 วัน
อาหารของนกฟอฟัส
นิยมใช้เมล็ดธัญญพืช ที่ผสมรวม 15 อย่าง ที่มีขายตามแหล่งขายอาหารนก หรืออาจผสมเองก็ได้ ซึ่งอย่างน้อยควรมีส่วนผสม อันได้แก่ ทานตะวัน มิลเลต ข้าวไรท์ ข้าวโอ๊ดและข้าวเปลือก เม็ดมะเขือ
เป็นส่วนผสมอยู่ด้วย นอกจากนี้ยังสามารถให้ผักและผลไม้ได้อีกด้วย ควรเปลี่ยนน้ำผสมวิตามินทุกวัน และให้กระดองปลาหมึกเพื่อช่วยให้นกสามารถรักษาปริมาณแคลเซี่ยมในร่างกายให้ สมดุลย์
โดยเฉพาะนกเพศเมียที่จะต้องใช้แคลเซี่ยมในการสร้างเปลือกไข่
วิธีเลือกซื้อลูกนกและวิธีเลี้ยงนกฟอพัส
วิธีเลือกซื้อลูกนกฟอพัส
นกฟอพัสเป็นนกอีกชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมนำมาเลี้ยงเป็นเพื่อน โดยปล่อยให้บินได้ภายนอกกรง หรือในอาคาร สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ ก็เพราะว่า นกฟอพัส เป็นนกแก้วขนาดเล็กมาก แถมมีสีสันสวยงาม เสียงไม่ดังจนเป็นที่รำคราญ สามารถปล่อยให้บินในที่พักได้ ซึ่งทำให้เกิดความประทับใจต่อผู้ที่ได้เลี้ยงนกชนิดนี้เป็นอย่างมากที่ได้ชื่นชมความสวยงามของตัวนกและความน่ารักเมื่อเจ้านกตัวน้อยเหล่านี้ได้ออกมาอยู่นอกกรง นอกจากนี้ในปัจจุบันได้มีการนำนกฟอพัสไปฝึกเพื่อนำไปปล่อยบินภายนอกอาคารแล้วกลับมาหาเจ้าของ ซึ่งทำให้ผู้เลี้ยงมีความเข้าใกล้ธรรมชาติมากยิ่งขึ้น และนี่อาจกล่าวได้ว่ามันเป็นความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นกับนกที่เราเลี้ยงเลยทีเดียว แต่ทุกขั้นตอนก่อนที่จะสามารถนำเขาออกมาเลี้ยงนอกกรง จะต้องมีวิธีการที่ถูกต้อง อันประกอบด้วย วิธีการซื้อ วิธีการเลี้ยงดู ตลอดจนถึงวิธีการฝึกฝน
นกฟอพัสเป็นนกอีกชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมนำมาเลี้ยงเป็นเพื่อน โดยปล่อยให้บินได้ภายนอกกรง หรือในอาคาร สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ ก็เพราะว่า นกฟอพัส เป็นนกแก้วขนาดเล็กมาก แถมมีสีสันสวยงาม เสียงไม่ดังจนเป็นที่รำคราญ สามารถปล่อยให้บินในที่พักได้ ซึ่งทำให้เกิดความประทับใจต่อผู้ที่ได้เลี้ยงนกชนิดนี้เป็นอย่างมากที่ได้ชื่นชมความสวยงามของตัวนกและความน่ารักเมื่อเจ้านกตัวน้อยเหล่านี้ได้ออกมาอยู่นอกกรง นอกจากนี้ในปัจจุบันได้มีการนำนกฟอพัสไปฝึกเพื่อนำไปปล่อยบินภายนอกอาคารแล้วกลับมาหาเจ้าของ ซึ่งทำให้ผู้เลี้ยงมีความเข้าใกล้ธรรมชาติมากยิ่งขึ้น และนี่อาจกล่าวได้ว่ามันเป็นความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นกับนกที่เราเลี้ยงเลยทีเดียว แต่ทุกขั้นตอนก่อนที่จะสามารถนำเขาออกมาเลี้ยงนอกกรง จะต้องมีวิธีการที่ถูกต้อง อันประกอบด้วย วิธีการซื้อ วิธีการเลี้ยงดู ตลอดจนถึงวิธีการฝึกฝน
วิธีการซื้อ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ก่อนที่จะทำให้เราได้ชื่นชมความสุข ความเพลิน อันแปลกใหม่ในชีวิตที่จะได้จากนกฟอพัส วิธีการซื้อนกลูกป้อน สามารถแยกเป็นประเด็นต่างๆได้ดังนี้
1. ไม่ควรซื้อลูกป้อนโดยการเปรียบเทียบราคา
2. ไม่ควรซื้อ จากแหล่งที่อาจมีเชื้อโรค
3. ไม่ควรซื้อ เพียงแค่ได้ดูรูปถ่าย
4. ไม่ควรซื้อลูกป้อนที่เคยผ่านการแยกจากพ่อ-แม่ มาป้อน
(ยกเว้น เฉพาะผู้ที่มีความชำนาญเท่านั้น)
(ยกเว้น เฉพาะผู้ที่มีความชำนาญเท่านั้น)
5. ไม่ควรซื้อ เพราะว่าใจร้อน อยากได้ทันที
6. ควรซื้อลูกป้อนที่มีสุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรง
7. ควรได้มีโอกาสเลือกลูกป้อน
8. ควรซื้อจากผู้ขายที่สามารถให้คำแนะนำ-ปรึกษาที่ถูกต้อง
9. ควรศึกษาข้อมูลให้รอบด้านก่อนตัดสินใจซื้อ
วิธีการเลี้ยงนกฟอพัส
ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ทุกคนย่อมไม่ต้องการให้สัตว์ที่เลี้ยงอยู่ตาย ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงเพื่อความเพลิดเพลินหรือเลี้ยงเพื่อเป็นอาชีพ สำหรับนกฟอพัสนั้น มีสาเหตุการตาย 2 จำพวก คือ+
จำพวกแรก ได้แก่พวกที่แก่ตายและเกิดอุบัติเหตุตายการป้องกัน สามารถทำได้ดังนี้
1. ควรเลือกซื้อลูกนกมาเลี้ยง เพราะลูกนกสามารถมีอายุอยู่ได้อีกนานจึงจะแก่ตาย
2. ไม่ควรนำลูกนกที่มีอายุแตกต่างกันมากมาเลี้ยงรวมกัน เพราะลูกนกที่มีอายุมากกว่าอาจจะทำร้าย พวกที่มีอายุน้อยกว่าจนตายได้
3.ไม่ควรนำลูกนกจำนวนมากเกินไปมาเลี้ยงรวมกัน ถ้ากรงที่ใช้เลี้ยงไม่ใหญ่มากพอ
จำพวกที่สองได้แก่พวกที่เจ็บป่วยตาย ซึ่งส่วนมากมักมีสาเหตุมาจากการเกิดโรคท้องเสีย แฮงเกอร์แต่มักจะเป็นเฉพาะตัวมันเองเท่านั้นการป้องกัน สามารถทำได้ดังนี้
1. ควรเลือกซื้อนกที่มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ร่าเริง แจ่มใส ไม่หงอยซึม
2. ควรสร้างโรงเรือนที่ล้อมด้วยตาข่ายลวดตาเล็ก เพื่อป้องกัน หนู และงู เข้าไปทำร้าย
3. ก่อนนำนกใหม่เข้าโรงเรือนเพาะเลี้ยง ควรนำนกไปทำความสะอาดตัวโดยใช้น้ำยาฆ่าเชื้อเจือจางอาบทั้งตัวแล้วอาบด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง จากนั้นนำไปผึ่งแดดอ่อนๆจนตัวแห้งแล้วจึงนำนกเข้าโรงเรือน
4. น้ำกิน อาหารให้สะอาดอยู่เสมอ และต้องไม่ขาด
5. ดูแลทำความสะอาดอุปกรณ์ กรง และโรงเรือนอยู่เป็นประจำ
6. ควรหมั่นตรวจตา นกที่อยู่ในโรงเรือนว่ามีอาการผิดปกติ เช่น หงอยซึม ขนพองฟู หัวซุกปีกหรือไม่ ถ้ามี ควรแยกออกจากฝูงเพื่อทำการรักษา
ในกรณีที่มีอากาศเปลี่ยนแปลง ควรให้ยาป้องกันซัก 1-3 วัน โดยสังเกตจากตัวนกว่าขนเริ่มพองฟู หัวซุกปีกหรือไม่
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น